เค้กวันเกิด เค้กวันเกิดน่ารักๆ เค้กวันเกิดน่ารัก วิธีทำเค้ก

Author: woranut00@gmail.com // Category:


เค้กวันเกิด Happy birth dayจ้า

เค้กขนาดประมาณ 16 ปอนด์นะคะ ขั้นแรกทำเค้กฝอยทองไว้ก่อนค่ะ แหม่มทำตามคุณmoopu ค่ะ ตามไปดูวิธีทำที่บล็อคเธอ ค่ะคุณ moopu ใช้สูตรsponge cake ของคุณแหม่ม เทียร่า ขอบคุณทั้งคุณ moopu และ คุณแหม่มเทียร่ามากนะคะขออนุญาตลอกสูตรและวิธีทำมาแปะไว้นะคะ
ส่วนผสม
1. แป้งเค้ก 100 กรัม
2. ผงฟู 3/4 ช้อนชา
3. น้ำตาลทราย 120 กรัม
4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
5. น้ำ 40 กรัม
6. นมข้นจืด 30 กรัม
7. ไข่ไก่ 3 ฟอง
8. เนยสดละลาย 70 กรัม (แหม่มใช้รสจืด)
9. สารเสริม SP 10 กรัม
10. กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ร่อนแป้งกับผงฟู พักไว้
2. วอร์มเตา เราต้องการอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสค่ะ
3. ตัดกระดาษไขรองก้นพิมพ์เค้ก ไม่ต้องทาไขมันใด ๆ ทั้งสิ้น
4. ใช้เครื่องตีไข่กับหัวตีรูปตะกร้อ ใส่น้ำตาลทราย เกลือ ไข่ไก่ และน้ำลงไป และเอา SP ปาดที่หัวตะกร้อ ตีให้น้ำตาลละลาย ขึ้นฟูเป้นสีขาว
5. ใส่แป้งลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที ใช้พายยางช่วยให้เข้ากันได้ค่ะ
6. ปาดอ่าง เปลี่ยนเป็นตีด้วยความเร็วปานกลาง 5 นาที เพื่อให้ส่วนผสมขึ้นฟู และข้นเหนียว
7. ปาดอ่าง ตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที แล้วใส่นมข้นจืดที่มีกลิ่นใส่ไว้แล้ว ตามด้วยเนยสดละลาย
8. ปาดอ่างเบา ๆ อีกครั้ง และตีด้วยความเร็วต่ำจนเนื้อเค้กเนียน ไม่มีฟองอากาศ นำส่วนผสมออกมาเทใส่พิมพ์
9. เคาะก้นพิมพ์เบา ๆ เพื่อไล่ฟองอากาศครั้งสุดท้าย เข้าเตาอบ อุณหภูมิ 180 องศา ใช้เวลาอบ 25-30 นาที10. เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว นำออกจากเตาทันที กระแทกพิมพ์ 1 ครั้งบนโต๊ะ เพื่อให้โครงสร้างเค้กอยู่ตัว
11. รอจนอุ่นๆก็คว่ำเค้กออกจากพิมพ์






หน้าตาจะออกมาเป็นแบบนี้
ต่อมาทำเค้กมะพร้าว แหม่มใช้สูตรเค้กครีมสดมะพร้าวของเชฟ ณชนกช์ ปัญญาหิตานนท์ จากหนังสือ Bakery in my heart สูตรและวิธีทำตามนี้ค่ะ
ครั้งนี้แหม่มทำเค้กปริมาณมากขึ้นโดยเพิ่มสัดส่วนตามปริมาณของไข่ค่ะ
สูตรตามนี้ค่ะ
1. แป้งเค้ก 146 กรัม
2. ผงฟู 1 +1/4 ช้อนชา
3. น้ำตาลป่น 90 กรัม
4. เกลือ 1/4 ช้อนชา
5. น้ำมันพืช 70 กรัม
6. ไข่แดงเบอร์2 6 ฟอง
7. กะทิ 35 กรัม
8. น้ำมะพร้าว83กรัม
9. ไข่ขาวเบอร์2 6 ฟอง10. ครีมออฟทาทาร์ 1/4 ช้อนชา11. น้ำตาลทราย 110 กรัม


ใช้พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 10x13 นิ้ว ปูกระดาษไขไม่ทาไขมัน อบ 4 ก้อนค่ะไส้มะพร้าวอ่อนสูตรแม่สลิ่มค่ะ ตาม นี้เลยค่ะ ขอบคุณคุณจุ๋ม แม่สลิ่มมากค่ะส่วนผสมไส้มะพร้าวอ่อน
1. มะพร้าวอ่อนขูดหรือหั่นเป็นเส้น 2 ลูก- แป้งถั่วเขียว (เรียกอีกอย่างว่าแป้งสลิ่ม) 30 กรัม มีขายตามห้างสรรพสินค้าค่ะ
2. น้ำตาลทราย 50 กรัม
3. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
4. กะทิ 250 กรัม (กะทิกล่อง)
5.น้ำมะพร้าว 150 กรัม (150 ซีซี)
6.เนยสด 30 กรัม (คุณจุ๋มใช้รสเค็มค่ะ)
วิธีทำ
เทน้ำมะพร้าว กะทิ น้ำตาล เกลือ แป้งถั่วเขียว รวมกันในหม้อ คนจนเข้ากันดี นำไปตั้งไฟอ่อนๆ ใช้ตะกร้อมือคนตลอดเวลาจนส่วนผสมข้นขึ้นเล็กน้อย แล้วใส่มะพร้าวอ่อนลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟแล้วใส่เนยสดลงไปคนจนเนยละลาย พักไว้ให้เย็นสำหรับสอดไส้เค้กค่ะ
ประกอบเค้ก ตามรูปเลยค่ะตี non-dairy whipping cream ประมาณ 700 กรัมจนฟู แล้วเอามาแต่งหน้าเค้ก ตกแต่งด้วยลูกชุบ







อันนี้เค้กมะพร้าวตัดแบ่งถวายพระที่มาสวดพุทธมนต์ค่ะ



จำไว้นะคะว่าเค้กจะเป็นหน้าตาแบบไหนก็ไม่สำคัญแต่ขึ้นอยู่กับเราถึงมันจะออกมาหน้าตาไม่ค่อยสวย แต่ก็เป็นเค้กที่เราใส่ทั้งความตั้งใจและความรักเพื่อให้กับคนๆนั้น



เค้กวาเลนไทน์ เค้ก ขั้นตอนการทำเค้ก

Author: woranut00@gmail.com // Category:
Valentine....MY ASS!!!!!

ว่า ด้วยเรื่องเค้ก...
อย่าเพิ่งตกใจไปคะ...เข้ามาบ่นเล็กน้อยเท่านั้น ช่วงนี้เห็นเด็กๆเค้าคิกคักกันแล้วแอบหมั่นไส้เล็กน้อย (ขำๆคะ)นึกถึงตอนเด็กๆ บรรยากาศเก่าๆ มันจะให้ความรู้สึกอีกแบบนึง ตื่นเต้นๆ วาเลนไทน์ปีนี้อืดๆคะ อยู่บ้านเมื่อวานไปทำเค้กบ้านเพื่อนมา นี่เลยคะStrwberry CheeseCake Muffin!!





มีผู้โชคดี (เหยื่อ) ได้ชิมไปหนึ่งรายคะ ...จริงๆแล้วไม่ได้คิดอะไร อยากทำเค้กให้ตัวเองฉลองวาเลนไทน์

ฉลองความโสดซะหน่อยความสุขมันไม่ได้อยู่ตอนทำเสร็จเท่านั้นคะ มันอยู่ที่ขั้นตอน

ระหว่างทำต่างหากชอบทุกตอนเพื่อนเลดี้ทำบ่อยคะ ส่วนใหญ่เราเลยเป็นลูกมือคอยช่วยเลดี้เคยเรียนทำเค้กมาครั้งนึงคะ (นานมากแล้ว) คุณน้าสอนว่า การทำเค้กเราต้องละเอียดกับเค้าทุกขั้นตอน

แล้วเทคนิคบางทีเค้าก็ไม่บอกกันตรงๆคะ ต้องสังเกตุเอาเอง ลองผิดลองถูก จนกลายมาเป็สูตร

กลายมาเป็นรูปแบบของตัวเองคนแรงไป เบาไป...ทำช้า เร็วไปแม้แต่วินาทีเดียว มีผลต่อความอร่อยของตัวเค้กทั้งนั้นคะ

เหมือนความรู้สึกของคนนะคะ...มันจึงต้องประคองกันไปดีๆคะเพื่อนเลดี้บอกว่า นี่ถ้าแกไม่รู้สึกอะไรกับเค้า แล้วจะทำเค้กให้เค้ากินทำไม

เลดี้บอกว่ามันไม่ใช่ประเด็น...คนเรารู้สึกดีๆแต่ไม่ใช่ในแบบนั้น ทำเค้กให้ไม่ได้เหรอ...

ทุกวันนี้คนเราบีบแคบกับรูปแบบความรักกันจังคะพอวาเลนไทน์ทีนึง..คนให้ของกัน..ต้องชอบพอกันแบบนั้นเท่านั้นเหรอคะ....

เหมือนทำเค้กแหละคะ..ต้องทำอร่อยเหรอ ถึงจะสามารถเอาไปให้คนอื่นกินได้อยากให้...ก็เพราะอยากจะให้ ไม่ได้เหรอคะสำหรับเลดี้นะ...

มันไม่ใช่ตรงนั้นหรอกคะ...แค่เราอยากทำอะไรดีๆให้กับคนที่เค้าดีกับเราจริงๆ ไม่คิดเหมือนกันว่าวันนี้จะได้ดอกไม้...ดีใจเหมือนกันคะ

ถ้ามันเป็นมิตรภาพดีๆเพราะตอนนี้ ยังไม่พร้อม..ยังไม่อยากมีใครจริงๆHappy Valentine's Day คะ

เค้กส้ม การทำเค้กส้ม ส่วนผสมเค้กส้ม หน้าตาเค้กส้ม

Author: woranut00@gmail.com // Category:

เค้กส้ม (ราดด้วยแยมมาร์มาเล็ด)

เค้กส้มสูตรนี้ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย ทำออกมาก็นุ่มละมุน อร่อยเหลือเกินค่ะ ใครอยากทานเค้กนุ่มๆ เบาๆ สูตรนี้คงจะถูกใจค่ะ

ส่วนผสม
1.ไข่ไก่ ๓ ฟอง แยกไข่แดง-ไข่ขาว
2.น้ำตาลทราย ๑ ๑/๓ถ้วย
3.ผงฟู ๑ ชต.
4.แป้งสาลี all-purpose flour ๒ ถ้วย (ร่อนแล้วตวง)
5.เกลือ ๑ ชช.
6.น้ำมัน ๑/๓ ถ้วย
7.นม ๑/๔ ถ้วย
8.ผิวส้ม ๒ ชต. (ขูดจากส้มที่เราจะคั้นเอาน้ำได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น)
9.น้ำส้ม ๒/๓ ถ้วย
10.เปิดเตาอบ ด้วยไฟ ๓๕0F
11.ใช้พิมพ์ขนาด ๙ นิ้ว ๒ ใบค่ะ(ลักษณะนามแปลกๆไหมหนอ)

1.ตวงส่วนผสมทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อย พร้อมที่จะลงมือทำได้ทันทีเลยนะคะ
แยกไข่แดง ไข่ขาวไว้ให้เรียบร้อย (ไข่ขาวอุณหภูมิห้องใส่กาละมังเตรียมไว้ตีให้ขึ้นฟู)



ขั้นตอนการทำ

1..ตวงส่วนผสมทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อย พร้อมที่จะลงมือทำได้ทันทีเลยนะคะ
แยกไข่แดง ไข่ขาวไว้ให้เรียบร้อย (ไข่ขาวอุณหภูมิห้องใส่กาละมังเตรียมไว้ตีให้ขึ้นฟู)
2.เอาไข่ขาวที่แยกไว้ใส่อ่างผสมตีด้วยความเร็วสุด (เริ่มจากความเร็วต่ำแล้วเร่งสปีดขึ้นเรื่อยๆ)
ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายทีละ ๑ ช้อนโต๊ะ (จริงๆแอบเทๆใส่ไม่ได้ตวงหรอก) ตีไปจนน้ำตาลหมดไข่ขาวขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อน..
((ขั้นตอนนี้ใส่น้ำตาลแค่ ๑/๓ ถ้วยนะคะ)) เสร็จแล้วพักไว้ก่อนนะคะ (พักไว้อึดใจเดียวค่ะ)






3.ต่อไป ผสม แป้ง น้ำตาล ๑ ถ้วยที่เหลือ ผงฟู เกลือ น้ำส้ม น้ำมัน นม ผิวส้ม ไข่แดงเข้าด้วยกัน
แล้วใช้เครื่องตีด้วยความเร็วต่ำใช้เวลาแป๊บเดียวค่ะ พอให้เครื่องทุกอย่างเข้ากัน ห้ามตีแรงนะคะ เดี๋ยวแป้งหนักขนมไม่นุ่มฟู
ขั้นตอนนี้จะใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากันแทนใช้เครื่องได้ค่ะ (ใช้ตะกร้อมือนี่แหละค่ะ)





ไม่ต้องกลัวว่าไข่ขาวจะยุบนะคะ เพราะว่าทุกอย่างเราเตรียมพร้อมไว้แล้ว ขั้นตอนแต่ละอย่างใช้เวลาแป๊บเดียว
เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่ไข่ขาวที่ตีขึ้นฟูไว้ลงในชามส่วนผสมของแป้ง
แล้วใช้ไม้พายหรือตะกร้อมือตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้ก็อย่าตะล่อมส่วนผสมนานมากเกินไป เดี๋ยวเกิดฟองอากาศเยอะอีก
เมื่อเข้ากันดีแล้วเทใส่พิมพ์กลมขนาด ๙ นิ้ว ๒ ถาด ก่อนยกเข้าเตาอบก็เคาะๆพิมพ์ไล่อากาศสักสองสามที
เอาเข้าเตาอบ อบนาน ประมาณ ๒๕ -๓0 นาที ตรงนี้แล้วแต่เตาอบของแต่ละบ้านนะคะ
พอเค้กหน้าเหลืองสวย ก็ลองเช็คดูว่าสุกหรือยัง โดยใช้ไม้แหลมๆค่อยๆจิ้มลงไปเบาๆ
ถ้าไม่มีเศษแป้งติดขึ้นมาก็เป็นอันว่าสุกแล้วค่ะ ระวังอย่าอบนานเกินไป เดี๋ยวเนื้อเค้กจะร่วนมากเกินไปค่ะ
พิมพ์เค้ก ให้ทาน้ำมันบางๆ แล้วโรยด้วยแป้ง เคาะๆพิมพ์ให้แป้งกระจายติดไปทั่วทั้งพิมพ์
แล้ววางกระดาษไขที่ตัดได้พอดีกับก้นพิมพ์แล้วทับลงไป เวลาเราเอาเค้กออกจากพิมพ์ จะได้เอาออกง่ายๆค่ะ








อบเสร็จพักเค้กไว้ในพิมพ์ก่อนสัก ๕ - ๑0 นาที ให้เค้กอยู่ตัวก่อนนะคะ แล้วค่อยแซะออกจากพิมพ์

จากนั้นก็ไปแต่งหน้าเค้กกันค่ะ ใช้แยมมาร์มาเลดราดหน้าเค้ก
ส่วนด้านข้างใช้วิปครีม ผสมกับซาวด์ครีมค่ะ
สูตร .. จริงๆวันนี้เผลอตีครีมตั้งเยอะแน่ะค่ะ ถ้าเพื่อนๆจะทำ ก็ให้ใช้ เฮฟวี่ครีม ขนาด ๘ ออนซ์ ตีครีมไปจนขึ้นฟู ใช้เวลาไม่นานค่ะ
อย่าตีนานเกินไป เดี๋ยวครีมจะแปลงร่างกลายเป็นซุปเปอร์ แมน อิอิ
พอกะว่าใกล้จะตีครีมเสร็จแล้ว ก็ให้ใส่ซาวด์ครีมลงไปตีด้วย ๑/๔ ถ้วย
ตีแค่พอส่วนผสมเข้ากันเท่านั้นค่ะ แค่นี้ก็สำเร็จเสร็จสรรพ เอาไปปาดด้านข้างเค้กได้เลยค่ะ






ราดแยมมาร์มาเลดปาดลงไปให้ทั่วด้านหน้าเค้ก ในรูปสำเร็จ จะเห็นได้ว่าใช้แยมมากเกินไป หุ..หุ
ใครทำก็ใส่น้อยๆหน่อยก็ได้ค่ะ ปาดไปให้ทั่ว เสร็จแล้วถึงโปะครีมลงไปด้านข้างเค้กนะคะ
เสร็จแล้ว..ตัดกินซะแล้ว แป่วๆ..รอไม่ไหว.. จริงๆแต่งเสร็จ เอาใส่ตู้เย็นไว้ก่อนให้ครีมกับแยมเซ็ทตัว
เวลาเพื่อนๆทำ โปะแยมบางๆเอาแค่พอให้ดูสวยก็พอนะคะ ใส่แยมมากไปก็หวานมาก ไม่ดีๆ


รูปแบบการแต่งหน้าเค้ก ได้มาจากนิตยสาร cooking ligthค่ะ

การทำเค้กสตอรเบอรี่ ส่วนผสมเค้ก วิธีทำเค้ก ขนมเค้ก

Author: woranut00@gmail.com // Category:


วิธีทำเค้ก เค้กสตอเบอรี่


แป้งเค้ก 90กรัม

ไข่ไก่3ฟอง

น้ำตาล90กรัม

เนยสดจืด 40กรัม

วิปครีม 400 cc

น้ำตาล5ช้อนโต๊ะค่ะ

ส่วนผสม

น้ำซอส น้ำ200ซีซี

นำตาล910กรัม

บรั่นดี 3ช้อนโต๊ะค่ะ

ก็ผสม รวมกันค่ะ สตอเบอรี่, ผงฟู, เนย


1. ใส่น้ำร้อน เอาไข่ไก่+น้ำตาล ตีให้เป็นสีครีมๆ เสร็จแล้วก็ใส่เค้ก+ผงฟู ที่ร่อนแล้ว1ครั้ง แล้วตะล่อมให้เข้ากันเบาๆค่แล้วใส่เนยละลายที่อุ่นๆค่ะ
2.แล้วใส่เนยละลายที่อุ่นๆค่ะ ค่อยๆเทลงไปแล้วคนให้เข้ากันเบาๆ มือค่ะจนส่วนผสมเข้ากันดี
3.เทใส่พิมนำเข้าเตาอบ เปิดไฟ ประมาณ180องศาค่ะ พอสุกตัดครึ่ง พักไว้
4.ตีวิปครีม ใส่น้ำตาล กลิ่นวนิลา ตีค่ะ ใส่ เนยลงไปซัก40กรัม แล้วตีให้แข็งตัว แต่ไม่ต้องแข็งตัวมากนะคะ เดี๋ยวปาดหน้าเค้กไม่สวยค่ะ
5.จากนั้นก็ใส่สตอเบอรี่ บนเค้กก่อนจะใส่วิปครีม เสร็จแล้วเราก็ใส่วิปครีมลงไป แล้วเอาสตอเบอรี่มาหั่น วางเรียงๆกันค่ะ
6.จะแต่งหน้าเค้กกันแบบไหนก็ได้ค่ะ สตอเบอรี่ก็วางบนเค้กจักเรียงให้สวยงามก็ใช้ได้ได้แล้วค่ะ

อย่าใส่วิปครีมจนหมดนะคะ เหลือเอาไว้มาปั่น ให้แข็งอีกรอบค่ะ เพราะเราจะเอามาใส่หลอด ที่ทำเค้กเป็นหัวแหลมๆไว้แต่งหน้าด้วยค่ะ แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ เป็นไงคะ ไม่ยากเลยใช่ไหม :)

ตั้งใจว่าจะทำเค้กให้สะมะเร็จภายในอาทิตย์นี้ เพราะไม่งั้นอาจจะต้องเสียตังค์ซื้อเค้กวันเกิดแน่ๆ ทั้งๆที่อุตส่าห์มีเตาอบกะเค้าซะที
วันเกิดเจ้าน้องชายอ่ะคะ อายุครบ 14 ปี Request มาว่าอยากกินเค้กที่มีผลไม้เปรี้ยวๆ อย่างพวกสตรอเบอรี่ กิบวิปครีม พี่สาวอยากจัดให้ กะลังพยายามอยู่
แต่วันเกิดที่ว่านั้น อาทิตย์หน้าอ่ะคะ ตอนนี้เลยตั้งใจซ้อม กะจะทำ Chiffon Cake ก้อนึกไปมาว่าจะทำแบบไหนดี ก้อลงเอยมาเป็น Caramel Custard Chiffon Cake หน้าตาแบบนี้อ่ะคะ
สูตรนี้เดียร์ไปเมี่ยงๆมองๆ บล็อค คุณมด CinnamalGal กับเจ๊หลี กินๆเที่ยวๆ แต่...ดั้น....ลืมจดสูตรกลับมาทำ อาศัยจำๆ มั่วๆ เอา .... ผิดพลาดประการใด ขอโทษเจ้าของสูตรที่เอามาโพสต์นะคะ...ไม่ได้ตั้งใจอ่ะคะ
แล้วที่สำคัญ เตาอบที่ซื้อมาก้อยังเข้ากับเจ้าของไม่ได้ซักที ก้อเลยเป็น...แบบพอกินได้...ไม่เหมือนอย่างที่แอบคิดไว้อ่ะคะ
มาเริ่มกันเลยนะคะ เดียร์ใช้พิมพ์ 2 ปอนด์ แบบถอดก้นได้ และจะแบ่งเป็น 3 ส่วนละกันคะ
ส่วนที่ 1 ส่วนหน้าคาราเมล

1. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย

1. นำน้ำตาลทรายใส่พิมพ์ นำไปอังบนไฟ เมือน้ำตาลเริ่มละลายออกเป็นสีทองๆ แล้วก้อเอียงพิมพ์ไปมา ให้น้ำตาลละลายเคลือบพิมพ์ให้หมด (เดียร์แอบใช้ช้อนป้ายๆ ทาๆ ด้วยอ่ะคะ กลัวไม่ทั่ว) พอทั่วแล้วก้อพักไว้คะ
ส่วนที่ 2 ส่วน Custard

1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
2. นมข้นจืด 1 ถ้วย
3. น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย (ลดเพิ่มตามใจชอบคะ)
4. น้ำ 1/3 ถ้วย
5. เกลือ 1/4 ชช.
6. กลิ่นวานิลลา 1/2 ชช.

1. นำส่วนผสมทุกอย่างผสมให้เข้ากันโดยใช้ตระกร้อมือ จนน้ำตาลละลาย
2. กรองส่วนผสมผ่านกระชอน แล้วนำไปเทใส่พิมพ์ที่เคลือบน้ำตาลคาราเมลไว้แล้ว
3. ถึงขั้นตอนนี้ เอาน้ำใส่ถาดแค่พอท่วมพิมพ์ ในปริมาณที่ใส่คัสตาร์ดไป และเราจะมาทำไข่ตุ๋น เอ้ย คัสตาร์ดคะ
4. วอร์มเตาอบไฟล่างอย่างเดียว ที่ 180C (เตาอบที่บ้านเดียร์ไม่สามารถอบไฟล่างอย่างเดียวได้คะ ถึงตอนนี้เราสามารถใช้ฟอยล์มาปิดเค้กด้านบนได้คะ)
5. นำถาดใส่น้ำที่คัสตาร์ดที่ใส่พิพม์เค้กไปวอร์มในเตาอบด้วย ให้คัสตาร์ดเซ็ตตัวคะ

จากนั้นมาที่ส่วนที่ 3 นะคะ ส่วน Chiffon Cake คะ
1. แป้งเค้ก 1 ถ้วย
2. ผงฟู 1/4 ชช.
3. เบกกิ้งโซดา 1/2 ชช.
4. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
5. นมผง 2 ชต.

นำทุกอย่างมาร่อนรวมกันคะ แล้วทำเป็นบ่อตรงกลาง พักไว้คะ
ส่วนผสมของเปียก (เอิ๊ก...ชื่อตลกจัง ไม่รู้จาเรียกว่าไรดีอ่ะ)

1. ไข่แดงเบอร์ 2 3 ใบ
2. นมข้นจืด 1/4 ถ้วย
3. น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
4. น้ำ 1/3 ถ้วย
5. น้ำมะนาว 1 ชช.
6. กลิ่นวานิลลา 1 ชช.
นำส่วนผสมทุกอย่าง ตีรวมกันด้วยตระกร้อมือ แล้วนำไปเทในส่วนผสมของแป้งที่ตรงกลางบ่อ ใช้ตระกร้อมือ คนแรงๆ เร็วๆ ให้เข้ากันแล้วพักไว้คะ
ส่วนผสมไข่ขาว

1. ไข่ขาวเบอร์ 2 3 ใบ
2. เกลือ 1/4 ชช.
3. น้ำตาลทราย

1. นำไข่ขาวใส่ในภาชนะที่สะอาด ไม่มีไขมันติดอยู่เลยนะคะ ตระกร้อมือด้วย จากนั้นใส่เกลือ และทยอยใส่น้ำตาลสัก 3 รอบ ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อนก่อนที่จะแข็ง แบบหงายตระกร้อมือขึ้นมายอดตั้งได้แล้วพับลงมานิดหน่อยอ่ะคะ (อ้อ...ขั้นตอนนี้ เดียร์ใช้ตระกร้อมืออ่คะ ไม่ได้ใช้เครื่อง ตีง่ายแป็บเดียวเอง ก้อขึ้นแล้ว ชอบทำ Chiffon ก้องี้หล่ะคะ)
2. นำส่วนไข่ขาวที่ตั้งยอดแล้ว ทยอยใส่ในส่วนผสมที่เราทำไว้ คนให้เข้ากันอย่างเบามือ
3. กะเวลาตั้งแต่วอร์มเตาอย่าให้เกิน 15 นาที เพราะเดี๋ยวคัสตาร์ดจะแข็งซะก่อน เอาแค่พอเซ็ตตัวคะ แล้วเอาออกมาจากเตา
4. เทส่วนผสมเค้กลงไป ตบๆข้างพิมพ์นิดหน่อยไล่ฟองอากาศ แต่อย่าแรงมากนะคะ เดี๋ยวคัสตาร์ดเละคะ 5. อบไฟล่างอย่างเดียว 30 นาที แล้วมาอบไฟบน-ล่าง 5 นาที (แต่เดียร์พลาดตอนนี้ละคะ 555 หน้าเกรียมเลย ตรงกลางๆ แอบไม่สุกนิดนึงคะ)
6. ออกจากเตาถึงให้เย็น แล้วเค้กจะร่อนออกมาอ่ะคะ ค่อยๆ ย้ำว่าต้องค่อยๆ นะคะ คว่ำลงบนตระแกรง (ตอนนี้เดียร์ก้อพลาดคะ หน้าคัสตาร์ดร่อนไปหน่อยนึง) หรือเดียร์ว่าคว่ำใส่จานไปเลยอ่ะคะ จะได้ไม่ต้องย้าย จะได้ไม่เละจ้า

เสร็จแล้ว แบบทุลักทุเลพอสมควร หน้าคัสตาร์ดโอเคเลยคะ แต่เดียร์ต้องทนกินเนื้อเค้กที่ไม่สุกนิดหน่อย คงเป็นเพราะไฟบนแรงไปแล้วไม่ได้เอาฟอยล์ปิด เพราะเตาที่บ้านไม่อำนวยไฟล่างอย่างเดียว อย่างที่ว่าอ่ะคะ เป็นบทเรียนของแม่บ้านมือใหม่ อิๆๆๆ ก้อสรุปว่าพอทานได้ค่า....











ขนมเค้กข้าวเกาหลี เค้กข้าว วิธีการทำเค้กข้าว

Author: woranut00@gmail.com // Category:
ขนมเค้กข้าวเกาหลี


ดูซีรีส์เกาหลี เรื่องวุ่นนักรักปรารถนา นางเอกกำลังขะมักเขม้นทำเค้กข้าว ในขณะที่นางร้ายกำลังพาตัวมาเป็นคู่แข่ง ดูแล้วก็คิดถึง เรื่องราวของขนมเค้กข้าวที่เคยเขียนไว้ เมื่อหลายปีก่อน
วันนี้ได้ฤกษ์นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่อีกครั้ง คนเขียนเองก็จะได้ย้อนคิดถึงความหลังที่มีโอกาสได้ลองทำขนมเค้กข้าว ที่กรุงโซล ประมาณปี 2005

เค้กข้าวตกแต่งเป็นรูปสัตว์น่ารัก

ขนมเค้กของชาวตะวันตก นอกจากจะมีส่วนผสมแป้งแล้ว ยังต้องมีนม เนย ชีส และไข่ เป็นส่วนประกอบที่ตรงกันข้ามกับขนมเค้กของเกาหลีที่เรียกว่า ต๊อก (tteok) ขนมเค้กชนิดนี้มีเพียงแป้ง เกลือ น้ำตาล และธัญพืช เป็นส่วนผสมเท่านั้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นขนมเค้กไขมันต่ำ และยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพก็ว่าได้
อันที่จริงแล้ว ต๊อก ก็คือ ขนมเค้กทำมาจากข้าว หรือว่า rice cake นี่เอง หากเราลองพิจารณาขนมไทยเราแล้วก็จะพบว่ามีแป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า เป็นส่วนประกอบหลักด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่าขนมไทยเรานิยมนำเอากะทิ และไข่ มาเป็นส่วนผสมด้วย


ดร.ซุค-จา ยูน สาธิตวิธีการทำเค้กข้าว

ในขณะที่ ต๊อก เป็นขนมข้าว ไร้กะทิ ไร้มัน ในยุคปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญในเรื่องอาหารอย่าง ดร.ซุค-จา ยูน แห่งสถาบันอาหารพื้นเมืองเกาหลี กรุงโซล ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ 'ต๊อก' ยังได้นำขนมเค้กเกาหลีมาดัดแปลงให้มีหน้าตาเหมือน ซูชิ แซนด์วิช และขนมเค้กแบบตะวันตก เสิร์ฟเป็นอาหารกลางวันชุดลดน้ำหนักให้ลองรับประทานเมื่อคราวที่มีโอกาสได้ไปเยือนที่สถาบัน รับประทานแล้วก็รู้สึกอยู่ท้องไม่น้อย
ดร.ซุค-จา ยูน สนใจสืบค้นและศึกษาเรื่องราว รวมทั้งรวบรวมอุปกรณ์การทำขนมพื้นบ้านเกาหลีชนิดนี้มาเป็นเวลานานนับสิบปี กว่าจะนำข้อมูลและของใช้ต่างๆ มาจัดแสดงให้ชมในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 5 ของสถาบันอาหารพื้นเมืองเกาหลีนั่นเอง

เค้กข้าวสมัยใหม่ทำเป็นชิ้นเล็กๆใส่กล่องสวยงาม

หากจะค้นไปถึงต้นตอของต๊อกกันแล้ว คงต้องย้อนกลับไปถึงยุคสำริด สมัยที่มนุษย์รู้จักใช้โลหะที่มีส่วนผสมระหว่างทองแดงกับดีบุกโน่นเลย เป็นที่รู้กันดีว่า 'ข้าว' เป็นผลผลิตสำคัญของชาวเอเชียและก่อให้เกิดวัฒนธรรมอาหารของชาวเอเชียในประเทศต่างๆ สำหรับการนำข้าวมาทำเป็นขนมต๊อกนี้ ในสมัยโบราณจะทำขึ้นเพื่อรับประทานกันในโอกาสพิเศษ เช่น วันเกิด วันแต่งงาน และวันฉลองอายุ 60 ปี
เป็นที่น่าสังเกตว่า ต๊อก จะนำมาใช้เฉลิมฉลองในวาระเริ่มต้นของการมีชีวิตใหม่ หรือการกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งการเตรียมขนมชนิดนี้เอาไว้บนโต๊ะอาหารในวันที่แสดงความระลึกถึงบรรพบุรุษอีกด้วย

เค้กข้าวตกแต่งคล้ายขนมเค้กแบบฝรั่ง
แม้ว่าต๊อกจะมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน จนทำให้ต๊อกทุกวันนี้มีมากมายถึง 300-400 ชนิดก็ตาม หากวิธีการทำขนมเค้กของเกาหลีนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี คือ นึ่ง บด และทอด แน่นอนว่าส่วนผสมหลักคือ แป้งข้าวเจ้า และแป้งข้าวเหนียว แต่ส่วนผสมอื่นๆ ที่เป็นหลักได้แก่ ถั่ว ถั่วแดง เกาลัด ดอกไม้ รวมทั้งสมุนไพรนานาชนิด ที่ช่วยทำให้เกิดสี กลิ่น ที่แตกต่างกันไป
ในสมัยราชวงศ์โชซอน ช่วงฤดูใบไม้ผลิดอกอาซาเลียจะบานสะพรั่ง ต๊อกหรือขนมข้าวรูปกลมแบนจะได้รับการตกแต่งด้วยกลีบดอกอาซาเลีย แล้วนำไปทอดให้สุกราดด้วยน้ำผึ้งหวาน ส่วนในฤดูร้อนเป็นเวลาที่ดอกกุหลาบสีเหลืองจะเบ่งบาน สาวเกาหลีก็จะนำเอากลีบดอกกุหลาบสีเหลืองมาประดับในต๊อกได้อย่างน่าประทับใจ


สำหรับเด็กๆ

ต๊อก จึงไม่เพียงแต่เป็นขนมที่มีความหมายถึงความดีงาม ความสุข แต่เพียงอย่างเดียว ยังเปรียบเสมือนงานศิลปะที่นำมาซึ่งสุนทรียรสทางสายตาและรสชาติเลยทีเดียว
ในสมัยนี้ ต๊อกอาจไม่ใช่ขนมที่หาซื้อได้ง่ายดายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป หากไม่ใช่ทำรับประทานกันในครอบครัวกันแล้ว มีร้านขายขนมต๊อกแบบดั้งเดิม และแบบเทรนดี้ หลายร้านในย่านอินซาดง แหล่งชอปปิงชื่อดังของกรุงโซล และที่คาเฟ่


เค้กข้าวทำเลียนแบบซูชิที่ จิลซิรุ เคี้ยวค่อนข้างลำบากเพราะเหนียวได้ใจ

จิลซิรุ บริเวณชั้นล่างของสถาบันอาหารพื้นเมืองเกาหลี ซึ่งจำหน่ายต๊อกในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นต๊อกรูปการ์ตูน ต๊อกรูปซูชิ ต๊อกรูปดอกไม้ แต่ละชิ้นมีความงดงามจนแทบจะไม่กล้ารับประทานกันเลยจริงๆ
ดร.ซุค-จา ยูน ย้ำว่าวิธีทำต๊อก หรือขนมเค้กเกาหลีนี้ง่ายแสนง่าย อุปกรณ์ก็มีเพียงชามผสมแป้ง ตะแกรงร่อนแป้ง พิมพ์ขนมรูปกลม (หน้าตาคล้ายเข่งนึ่งซาลาเปา) ผ้าขาวบาง หม้อนึ่งอาหาร และใช้มือทั้งสองข้างนี่ล่ะค่ะ หยิบ
แป้งและส่วนผสมขึ้นมาถูเข้าด้วยกันเท่านั้น

ประวัติความเป็นมาของขนมเค้ก ขนมเค้ก

Author: woranut00@gmail.com // Category:



ประวัติความเป็นมาของขนมเค้ก


เค้ก เป็นขนมที่มีกระบวนการทำให้สุกโดยการอบ เป็นขนมที่นิยมบริโภคกันทุกกลุ่มชน เค้กมีหลายประเภทและมีคุณสมบัติต่าง ๆ กัน ซึ่งขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของส่วนผสมคือแป้งสาลี ผงฟู เกลือ ไขมัน น้ำตาลไข่ นม และกลิ่นรส โดยต้องมีองค์ประกอบเป็นตัวเค้กให้มีความสมดุลย์ต่างกันไป แล้วแต่ชนิดของเค้กที่จะทำ
ประโยชน์ของเค้ก
เค้ก เป็นขนมอบที่มีลักษณะ รูปร่าง ตามความต้องการของผู้ผลิต แต่มีส่วนประกอบของแป้งสาลี น้ำตาล ไข่ นม ไขมัน และสิ่งปรุงแต่งให้เกิดชนิดของเค้ก เช่น ผลไม้ต่าง ๆ ดังนั้นเค้กจึงเป็นขนมที่ให้ประโยชน์กับผู้บริโภค โดยได้รับสารอาหาร คือ แป้ง น้ำตาล ให้สารอาหาร คาร์โบไฮเดรท ซึ่งเป็นสารอาหารที่ทำให้เกิดพลังงานแก่ร่างกายไข่ นม ให้สารอาหาร โปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่สร้างเซลล์เนื้อเยื่อให้กับร่างกายเนย ไขมัน ให้สารอาหารไขมัน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยในการหล่อลื่นและทำให้ผิวพรรณสดชื่นนอกจากนั้นเด็กยังสามารถนำไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ เช่น วันมงคลสมรส วันเกิด ปีใหม่ และสามารถจัดรับประทานเป็นอาหาร น้ำชา กาแฟด้วย